คำจำกัดความ
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลธรรมดาที่ระบุหรือสามารถระบุตัวตนได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ยกเว้นข้อมูลของบุคคลธรรมดาที่เสียชีวิต “ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง ละเอียดอ่อน และเสี่ยงต่อการถูกเลือกปฏิบัติ และจะต้องได้รับการปฏิบัติและดำเนินการอย่างระมัดระวัง ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ประวัติสุขภาพ ข้อมูลสหภาพแรงงาน เป็นต้น (ทั้งข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจะเรียกรวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่รวบรวมและแหล่งที่มาของข้อมูล
บริษัทจะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง;
ข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล วันเกิด สถานะ เพศ ที่อยู่ เลขที่บัตรประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง อาชีพ ตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงาน
ข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ การติดต่อทางโซเชียลมีเดีย เช่น ไอดีไลน์.
ข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ เลขที่บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต รายได้ สิทธิพิเศษ ผลประโยชน์ รับ/จ่าย ประวัติทางการเงิน ภาษี
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ได้แก่ เชื้อชาติ ศาสนา ความทุพพลภาพ ประวัติสุขภาพ ประวัติทางการแพทย์ อุบัติเหตุ ประวัติการใช้ยา ใบรับรองแพทย์ บันทึกการรักษา บันทึกใบสั่งยา ค่ารักษาพยาบาล คำถามทางการแพทย์ รายงานประจำวันของตำรวจ ความเห็นของตำรวจ ประวัติอาชญากรรม บันทึกความผิด ภาพถ่าย/วิดีโอคลิปของความประสงค์หรืออุบัติเหตุ คำสั่งศาล/คำพิพากษา
ข้อมูลการทำธุรกรรมประกันซึ่งเป็นข้อมูลที่ระบุไว้ใน ใบคำขอเอาประกัน, ประวัติการซื้อหรือบริการ, ประวัติการเคลม, ร้องเรียน ศักยภาพในการซื้อข้อมูลผลิตภัณฑ์ประกัน
ข้อมูลการติดต่อหรือการเยี่ยมชมที่เป็นเว็บไซต์และระบบใช้/เข้าถึงข้อมูลของบริษัท บริษัทในเครือ หรือแอปพลิเคชันพัฒนาโดยบริษัท คุกกี้ ข้อมูลการใช้โซเชียลมีเดีย บริการบันทึกการประเมินความพึงพอใจ สถิติ หรือข้อมูลวิเคราะห์ บันทึกเสียง ข้อความเสียง บันทึกวิดีโอ (และบันทึกเสียง) ผ่านกล้องวงจรปิด
ข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ ป้ายทะเบียนรถ หมายเลขตัวถัง บทสัมภาษณ์ และ ข้อมูลการวิจัยในการนี้ บริษัทได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจาก คุณหรือจากการดำเนินธุรกิจของเรา ช่องทางการขายทั้งหมด ให้หรือ รับบริการจากบริษัทฯ โดยมีกิจกรรม ดังนี้
การขอเอาประกัน เคลม ใช้บริการใดๆ หรือดำเนินการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ
สมัครใจทำแบบสำรวจหรือเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ทางอีเมล์ตอบกลับหรือสื่อสารผ่านช่องทางใด ๆ ระหว่างคุณและบริษัท
การเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทผ่านคุกกี้ของเบราว์เซอร์ของคุณ
จากตัวแทนหรือนายหน้าประกัน
จากโรงพยาบาล คลินิก อู่ซ่อมรถ ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องบริการประกันวินาศภัย
จากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงาน คปภ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร ฯลฯ
จากบริษัทประกันอื่น
แหล่งอื่นๆ ที่บริษัทได้รับมาโดยชอบด้วยกฎหมาย
การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น เช่น ผู้รับประโยชน์ ผู้ไร้ความสามารถบุคคล พนักงาน ผู้รับเหมา ฯลฯ คุณต้องแจ้งให้ทราบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสิทธิที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ด้วยตัวท่านเอง และ/หรือ ได้รับความยินยอมจากพวกเขาก่อนที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทอย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบว่าข้อไม่สมบูรณ์ของ การให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดโดยบริษัท มันยังส่งผลต่อความสามารถของบริษัทเพื่อพิจารณาทำธุรกรรมใดๆ กับท่าน
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
พิจารณาการรับประกัน การเรียกร้อง การจ่ายเงิน การจ่ายผลประโยชน์ตามสัญญาประกัน และการให้บริการในฐานะผู้รับประกันเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของเรา
เรียกเก็บเบี้ยประกันและหนี้สิน (ถ้ามี) ตรวจสอบการชำระเบี้ยประกันหรือค่าใช้จ่าย ชำระค่าสินไหมและตรวจสอบการจ่ายสินไหม
การปฏิบัติตามสัญญาประกัน สัญญาประกันร่วม สัญญาประกันต่อ สัญญาประกันย่อย
ให้บริการสำรวจความเสี่ยง ประเมินค่าสินไหม และ/หรือตัวปรับค่าสินไหมทดแทน
ให้บริการแจ้งต่ออายุสัญญาประกัน ให้บริการ ดูแลลูกค้า และควบคุมคุณภาพ
เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกรณีต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกหรือรับช่วงสิทธิ
รวบรวมข้อมูลทางสถิติ วิเคราะห์/วิจัย เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ คำนวณเบี้ยประกันให้ตรงกับความเสี่ยง ตรวจสอบและป้องกันการฉ้อฉล และ/หรือ ฝ่าฝืนกฎหมาย
ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือคำสั่งของหน่วยงานกำกับดูแล ภาครัฐ หรือหน่วยงานใดๆ
สื่อสาร รับ/แจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริการประกันหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เพื่อส่งเสริมการขาย สิทธิพิเศษ และ/หรือเพื่อการขายต่อเนื่อง/การขายต่อยอด หรือเพื่อพัฒนาบริการของบริษัท
เพื่อประเมินพฤติกรรมการใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ของบริษัทเพื่อวิเคราะห์เพื่อสร้าง ปรับปรุง และพัฒนา
เพื่อประเมินพฤติกรรมการใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ของบริษัทเพื่อวิเคราะห์เพื่อสร้าง ปรับปรุง และพัฒนา
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายใต้วัตถุประสงค์ข้างต้นภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
ความยินยอมโดยชัดแจ้งที่ได้รับจากคุณ
จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามสัญญาที่คุณเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของคุณก่อนที่จะทำสัญญา (ตามสัญญา)
สำหรับป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานที่ดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยบริษัท หรือ จำเป็นสำหรับการใช้อำนาจอย่างเป็นทางการที่ตกเป็นของบริษัท
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ทางกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นใดซึ่งไม่เกินความคาดหมายของท่านโดยสมควร (Legitimate Interest)
จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม (Legal Obligation)
พื้นฐานทางกฎหมายอื่น ๆ
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามสัญญาประกันหรือการให้บริการ ดังนี้
สำนักงาน คปภ. เพื่อประโยชน์ในการกำกับธุรกิจประกัน
หน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัท เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร เป็นต้น
สมาคมประกันวินาศภัยไทยและ/หรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์สถิติและการคำนวณเบี้ยประกัน
บริษัทประกันต่อ และ/หรือ บริษัทประกันร่วม
สถาบันการเงินหรือบริการทางการเงินเกี่ยวกับการรับและจ่ายเงิน
ผู้มีอำนาจที่บริษัทให้อำนาจตามกฎหมายในการให้บริการในนามของบริษัทเกี่ยวกับการรับประกัน การสำรวจความเสียหาย การชดเชย การปฏิบัติตาม การตรวจสอบกิจกรรมใด ๆ เกี่ยวกับสัญญาประกันหรือการดำเนินธุรกิจของบริษัทตามความจำเป็น
ตัวแทนหรือนายหน้าที่ได้รับอนุญาตเพื่อให้บริการแก่ผู้เอาประกันหรือผู้รับประโยชน์
บุคคลที่สามใดๆ ที่คุณให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งแก่เราหรือบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณอาจเกี่ยวข้องกับสัญญาประกัน หรือเปิดเผยเพื่อทำธุรกรรมและ/หรือใช้บริการตามที่คุณร้องขอนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กล่าวไว้ข้างต้น
บริษัทจะถ่ายโอน ส่ง และ/หรือส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของคุณข้ามประเทศเฉพาะในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเท่าเทียมกันตามที่กฎหมายกำหนด และอยู่ในวัตถุประสงค์ข้างต้นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
ความปลอดภัยและการเก็บรักษาข้อมูล
บริษัทจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างปลอดภัยโดยใช้มาตรการทางเทคนิคและมาตรการขององค์กร เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยที่เหมาะสมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงตระหนักถึงความปลอดภัยของข้อมูลและปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลตามกฎหมายและระเบียบของหน่วยงานราชการและหน่วยงานกำกับดูแล
นอกจากนี้ บริษัทยังมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณโดยจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะบุคคลที่จำเป็นซึ่งจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่านั้น บุคคลดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยและการรักษาความลับของข้อมูลของบริษัทอย่างเคร่งครัด
ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ข้างต้นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ซึ่งบริษัทจะเก็บรักษาไว้เป็นเวลา 10 ปีนับจากวันที่ยุติความสัมพันธ์กับคุณหรือการติดต่อครั้งสุดท้าย บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณนานกว่าระยะเวลาดังกล่าวภายใต้การอนุญาตของกฎหมาย
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในรูปแบบที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูล อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหลังจากหมดอายุตามกำหนด เช่น ในระหว่างกระบวนการฟ้องร้อง เป็นต้น บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อลบหรือทำลายหรือไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของการรวบรวม
สิทธิ์ของเจ้าของข้อมูล
ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้;
สิทธิ์ในการเข้าถึง: เพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
สิทธิ์ในการแก้ไข: เพื่อขอให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้รับการปรับปรุง แก้ไข ปรับปรุง และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
สิทธิ์ในการเคลื่อนย้ายข้อมูล: การรับข้อมูลส่วนบุคคล / คำขอโอนไปยังบุคคลที่สาม
สิทธิ์ในการคัดค้าน: หากต้องการคัดค้านการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ให้ถอนความยินยอมที่ได้รับไปแล้ว เมื่อใดก็ตามที่จำเป็นภายใต้กฎหมายและข้อบังคับ
สิทธิ์ในการลบ: เพื่อขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่ระบุตัวตน
สิทธิ์ในการระงับ: เพื่อขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
สิทธิ์ในการยื่นเรื่องร้องเรียน: เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนต่อหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอำนาจ
ท่านสามารถติดต่อ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อขอใช้สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลได้ (ข้อมูลติดต่อตามภาพด้านล่าง) บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการดำเนินการตามคำร้องของท่านภายใน 30 วันหลังจากได้รับคำร้องของท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลบ ทำลาย หรือไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หากมีความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล การลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นนิรนาม หรือเพิกถอนความยินยอมของคุณสามารถทำได้ภายใต้กฎหมายที่กำหนดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเราในการดำเนินการตามสัญญาหรือการให้บริการตามสัญญาประกัน การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ความยินยอมล่วงหน้าของคุณที่ให้ไว้
ข้อมูลการติดต่อ
หากท่านมีข้อเสนอแนะหรือสอบถามเกี่ยวกับการรวบรวม การใช้งาน และ/หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนคำขอใช้สิทธิของท่านตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ท่านสามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางต่อไปนี้:
บริษัท ซันเดย์ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เลขที่ 100/24 อาคารสาธรนครทาวเวอร์ ชั้น 16 เอ ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 ประเทศไทย โทรศัพท์: 02 022 1111 อีเมล: DPO.th@sundayinsurance.co.th
ทบทวนและแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทจะพิจารณาทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับหลักปฏิบัติของเราและเพื่อให้สอดคล้องกับ PDPA และกฎระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับแก้ไขจะถูกโพสต์บนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งคุณสามารถดูฉบับแก้ไขได้ที่ www.sundayinsurance.co.th/en/privacy